เว็บไซต์ของคุณมีหัวหอมกี่ชั้น?
เคยไหมครับ ที่เราเข้าเว็บไซต์ขายสินค้าหรือบริการ แล้วรู้สึกถูกใจ แต่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อในขณะนั้น เราจึงได้ปิดเว็บไซต์นั้นทิ้งไป โดยที่เว็บไซต์ก็ไม่ได้อะไรจากเรา ทั้งๆที่ทำให้เราสนใจได้แล้วแท้ๆ
สมมติเว็บไซต์นี้คือเว็บของเฮียหมู ที่ขายหมูออนไลน์
ถ้าเปรียบเว็บเฮียหมูกับหัวหอม ก็เหมือนหัวหอมที่มี 2 ชั้น คือ เข้าชมเว็บไซต์ กับซื้อสินค้า
ตามทฤษฎีของหัวหอม กล่าวไว้ว่า หน้าที่ของเราในฐานะเจ้าของเว็บไซต์ ไม่ใช่การบังคับให้คนมาซื้อสินค้า หรือ Hard Sell แต่คือการสร้าง Layer หรือชั้นของหัวหอมหลายๆชั้น เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของคนเข้าชมเว็บไซต์ จากนั้นหน้าที่ของเราคือค่อยๆขยับความสัมพันธ์ ข้ามชั้นลงมายังชั้นในสุด
สมมติว่าเฮียหมู ได้อ่านบทความนี้ แล้วลองทำตาม จึงก่อกำเนิดเป็นเว็บไซต์ใหม่
มีชั้นของหัวหอมเพิ่มขึ้นแล้วครับ รวม 6 ชั้น นั่นคือ เข้าชมเว็บไซต์, ดาวน์โหลด Catalog, รับตัวอย่างสินค้า, LINE คุยกับเซลล์, โทรปรึกษาเฮียหมู และซื้อสินค้า
ยิ่งลูกค้าเขยิบเข้ามาชั้นในเท่าไร ความสัมพันธ์ของลูกค้ากับเฮียหมูจะค่อยๆเพิ่มมากขึ้น ถึงจะไม่ได้ซื้อในการเข้าชมเว็บไซต์ครั้งแรก ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะว่ามีชั้นที่คอยรองรับเพิ่มแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า เฮียหมูจะได้อะไร ถ้าคนยังไม่ซื้อสินค้า เรามาลองดูตัวอย่างสิ่งที่เฮียหมูจะได้ในแต่ละชั้นกันครับ
- ดาวน์โหลด Catalog – ได้ Email สำหรับส่ง Catalog
- รับสินค้าตัวอย่าง – ได้ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า
- LINE คุยกับเซลล์ – ได้ LINE ID
- โทรปรึกษา – ได้เบอร์โทรศัพท์
จะเห็นได้ว่าเฮียหมูไม่ต้องบังคับลูกค้าให้ซื้อในทันที หน้าที่ของเฮียหมูแค่สร้างชั้นออกมารองรับ และให้ลูกค้าทำตามความต้องการ เมื่อลูกค้าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว เราก็ค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ เขยิบให้ลูกค้าเข้าใกล้เรามากขึ้น ให้ข้ามชั้นไปอีกชั้น เช่นเมื่อลูกค้าดาวน์โหลด Catalog แล้ว เราก็บอกลูกค้าว่าเรามีตัวอย่างสินค้าแจกฟรีด้วยนะ เป็นต้น
(ตัวอย่างของแจกฟรีของเว็บนี้ ^^ Checklist 4 ขั้นตอนการลงโฆษณา Facebook ให้คุ้มค่าที่สุด)
ชั้นของหัวหอมสำคัญกับการลงโฆษณาออนไลน์อย่างไร?
ในฐานะที่คุณผู้อ่านเป็นคนที่ลงโฆษณาออนไลน์ หลังจากรู้จักทฤษฎีหัวหอมแล้ว ก็ลองตอบคำถาม 2 ข้อนี้ครับ
- เว็บไซต์ของคุณมีชั้นมารองรับลูกค้าเพียงพอแล้วหรือยัง?
- โฆษณาออนไลน์ที่คุณลงอยู่ คือการบังคับลูกค้า หรือการพัฒนาความสัมพันธ์?
เมื่อตอบคำถามได้ 2 ข้อ เราก็พร้อมลงโฆษณาได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืนครับ
ป.ล. ผมได้รู้จักทฤษฎีหัวหอมนี้ครั้งแรกจากคุณ Aaron Ross ในหนังสือเรื่อง Predictable Revenue: Turn Your Business Into A Sales Machine With The $100 Million Best Practices Of Salesforce.com สำหรับคนที่สนใจ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์เลยครับ
ป.ล.2 แล้วคุณผู้อ่านมีชั้นของหัวหอมแบบไหนบ้าง? แชร์ได้ที่คอมเม้นด้านล่างเลยครับ
วิศวกรคอมพิวเตอร์ที่หันเข้าสู่วงการการตลาดเชิงดิจิทัล สนใจการทำโฆษณาผ่าน Facebook ที่เน้นการทำยอดขายมากกว่าแค่ยอด Like การทำ Digital Marketing Chef เป็นการแบ่งปันสูตรลับที่ผ่านการสั่งสมประสบการณ์มาเพื่อเน้นการลงโฆษณาแบบคุ้มค่า ได้ผลจริง และวัดผลได้